คู่มือการเลือกของเล่นให้ลูกน้อย ของเล่นสำคัญอย่างไร ของเล่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งสำหรับเด็กๆ นอกจากการเล่นที่ให้ความสนุกสนานเพลิดเพลิน อันเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เด็กมีอารมณ์ดีและเบิกบานแล้ว การเล่นของเล่นยังช่วยเสริมความคิด สร้างสรรค์สร้างจินตนาการและฝึกทักษะในการใช้อวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย ช่วยพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ ทุกๆ ด้านอย่างมีประสิทธิภาพ
การเล่นของเล่นช่วยให้เด็กได้ใช้พลังงานและจินตนาการได้อย่างกว้างขวางไม่มีที่สิ้นสุดเพราะของเล่นมีวิธีเล่นที่ไม่จำกัดสามารถเปลี่ยนแปลงได้เด็กจะเรียนรู้การปรับตัวตามโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
เมื่อของเล่นมีประโยชน์อย่างมากมายแก่เด็ก จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ปกครอง้องศึกษาของเล่นให้มีความเหมาะสมสำหรับเด็กในและวัน ของเล่นบางอย่างอาจเกิดโทษหรืออุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงต่อเด็ก หากผู้ใหญ่ให้ของเล่นที่ไม่เหมาะสมตามวัย นอกจากหน้าที่การเลือกของเล่นให้เด็กแล้ว การเป็นเพื่อนเล่นกับเด็กในบางขณะก็สำคัญไม่น้อยกว่ากันนอกจากความอบอุ่นที่เด็กได้รับแล้วท่านยังสามารถให้คำแนะนำวิธีเล่นอย่างปลอดภัยได้ด้วย
เรียนรู้ผ่านของเล่นอย่างไร การเล่นเป็นหัวใจของการเรียนรู้และพัฒนาการเด็ก เป็นวิธีการที่เด็กจะเรียนรู้ทักษะต่างๆ อันเป็นพื้นฐานสำคัญของความสามารถเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ดังที่ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการของเด็กได้ศึกษาและค้นพบดังนี้
- เด็กได้พัฒนาทักษะทางร่างกายในขณะที่เขาเรียนรู้ที่จะเอื้อมมือจับ กำ คว้าสิ่งของ คลาน วิ่ง ปีนป่ายและทรงตัว ขณะที่เด็กจับต้องของเล่นชิ้นใดชิ้นหนึ่งเขาจะพัฒนาความคล่องแคล่วในการควบคุมตัวเองไปพร้อมๆ กัน เด็กมีการพัฒนาการใช้ภาษาขณะที่เล่นกับคนอื่น หรือคนอื่นมีปฏิกิริยาด้วย เช่น เล่นจ๊ะเอ๋ หรือพูดคุยอืออากับผู้ใหญ่การเล่นนิทานจะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ภาษาและขัดเกลาจริยธรรมผ่านการเล่านิทาน
- ทักษะทางสังคมเจริญงอกงามในขณะที่เด็กเล่นเกมต่างๆ จะสอนให้เขารู้จักการให้ความร่วมมือ การเจรจาแลกเปลี่ยนหรือต่อรอง เด็กถูกฝึกให้ควบคุมตัวเองให้อยู่ในกฎเกณฑ์ผ่านเกมการเล่นต่างๆ
- ความเข้าใจความเป็นไปของสิ่งต่างๆ รอบด้าน พัฒนาไปในขณะที่เด็กพยายามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับของเล่น นับเป็นการฝึกการแก้ปัญหาแต่วัยเยาว์ ของเล่นรูปทรงหรือสีสรรต่างๆ สามารถจับคู่หรือแยกแยะจากกันล้วนเป็นการฝึกทักษะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนขึ้น เรื่อยๆ
เลือกของเล่นอย่างถูกต้อง ก่อนที่จะเลือกหาของเล่นให้แก่บุตรหลาน ผู้ปกครองต้องเข้าใจและเรียนรู้ในพฤติกรรมของบุตรหลาน เด็กทุกคนสนใจเรียนรู้แตกต่างกัน ข้อจำกัดต่างกัน เด็กจึงชอบการเล่นที่ไม่เหมือนกัน ของเล่นที่เด็กคนหนึ่งชอบอาจไม่ใช่ของชอบสำหรับเด็กคนอื่น จึงเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองต้องให้ความสนใจเอาใจใส่ในบุตรหลานเพื่อค้นหาของเล่นที่เข้ากับบุตรหลาน
เลือกแบ่งตามวัย แรกเกิด – 1 ปี
ตั้งแต่แรกเกิดเด็กก็สามารถตอบสนองต่อการสัมผัสต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้การสัมผัสต่างๆ ให้พัฒนาที่ดีขึ้น เช่น ของเล่นรูปทรงต่างๆ ที่ไม่ซับซ้อน สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม หรือทรงกลม มีสีสรร สดใส ผิวหยาบบ้าง ละเอียดบ้าง แต่งต่างกันไป เพื่อการเรียนรู้ประสาทสัมผัสประเภทมีเสียงแต่ไม่ดังจนเกินไป เช่น ของเล่นเขย่ามือ หรือหนังสือภาพ ที่มีความหนาทนทาน ตุ๊กตานุ่มๆ ที่สามารถเข้าปากกัดได้ พึงระวัง ของเล่น ทุกชิ้นต้องมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่เด็กจะกลืนกินได้ ตรวจสอบความแหลมคมในทุกๆ ด้าน ไม่สามารถแตกแยกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แตกหักยาก น้ำหนักเบาและต้องเคลือบด้วยสีที่ปลอดสารพิษ
วัย 1 – 3 ปี เด็กในวัยนี้เริ่มซุกซน เคลื่อนไหวคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง เริ่มปีนป่าย ของเล่นเริ่มซับซ้อนขึ้นบ้าง เช่น ของเล่นที่มีหลายๆ ชิ้นในชุดเดียวกัน หรือของเล่นที่มีการเคลื่อนไหวประเภทลูกบอล ของเล่นเป่าลมรูปแบบต่างๆ รถ 3 ล้อเล็กๆ ที่ไม่สูงเกินไป ของเล่นเลียนแบบโลกที่อยู่รอบๆ ตัวเอง ชุดครัว ชุดเครื่องมือช่าง หรือชุดหมอจำลอง ของเล่นที่ลากจูงได้ ควรให้เด็กเริ่มออกเล่นนอกบ้าน หรือกลางแจ้งบ้าง แต่อยู่ในสายตาของผู้ปกครอง เช่น การเล่นในบ่อทรายด้วยอุปกรณ์และถังพลาสติกหรือรถนั่งสำหรับเข็นและลากจูง
พึงระวัง ของ เล่นที่มีขนาดเล็กยังต้องให้ความระวังและหลีกเลี่ยง ของเล่นที่มีความแหลมคม และมีน้ำหนักอาจเกิดอุบัติเหตุได้จากการขว้างปา ขนาดของรูหรือช่องต่างๆ ในของเล่น ควรมีขนาดเล็กหรือใหญ่กว่านิ้วมือทุกครั้ง เพื่อป้องกันการติดค้างและขัดกันจนเกิดอุบัติเหตุได้
วัย 3 – 5 ปี เด็กในวัยนี้เป็นวัยก่อนเข้าเรียน เด็กจะเริ่มเลียนแบบและทำท่าทางเลียนแบบผู้ใหญ่ใช้จินตนาการกับของเล่นได้เป็นอย่างดีผู้ปกครอง จึงจำเป็นต้องคอยชี้แนะการเล่นที่ถูกต้องและปลอดภัย ของเล่นที่มักถูกใจเด็กในวัยนี้ เช่น ประเภทรถเกี่ยวกับการขนส่งต่างๆ รถตำรวจ เครื่องบิน เรือ รถไฟ หรือเสื้อผ้า ชุดละคร บ้านจำลอง โทรศัพท์ และอื่นๆ ที่จำลองจากชีวิตจริง เริ่มต้องการเพื่อนเล่น มีการสมมติเป็นบุคคลต่างๆ หากไม่มีเพื่อนในบางขณะ ตุ๊กาหมีหรือตุ๊กตาสัตว์ต่างๆ ขนาดพอเหมาะอาจใช้เป็นเพื่อนระบายความคับข้องใจบางอย่างได้
ทักษะความจำต่างๆ พัฒนาได้อย่างรวดเร็วในวัยนี้ เกมง่ายๆ ที่เริ่มมีตัวเลขไม่ซับซ้อน จะช่วยเสริมการฝึกวิธีคิดต่างๆ ได้ดี รวมถึงเกมภาพต่อหรือภาพปริศนาต่างๆ เสริมจินตนาการและฝึกควบคุมอารมณ์ด้วยภาพระบายสีควรมีอุปกรณ์ศิลปะหรือดิน น้ำมันเพื่อการฝึกปั้นรูปต่างๆ
พึงระวัง อันตรายจากการนำของเล่นเข้าปากและด้วยวัยที่มีจินตนาการสูงจึงสำคัญอย่างยิ่งในการตักเตือนและแนะนำด้วยเหตุผลในการเล่นของเล่นที่ไม่ถูกวิธีและดูแลอย่างใกล้ชิด หลีกเลี่ยงของเล่นที่อาจสร้างพฤติกรรมที่นำไปสู่ความรุนแรง เช่น ของเล่นอาวุธจำลอง
วัย 6 – 9 ปี เด็กเริ่มมีความคิดเป็นตัวของตัวเองสูง ขึ้น เริ่มเข้าสังคมมากขึ้น มีความอยากรู้ อยากเห็นโลกรอบตัว ของเล่นจึงควรมีลักษณะที่เป็นการส่งเสริมทักษะทางความคิด เช่น อุปกรณ์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ เกมปริศนา หมากรุก หมากฮอส เกมต่อภาพจิ๊กซอว์ นอกจากการพัฒนาความคิดแล้ว การพัฒนาทางด้านอารมณ์ด้วยอุปกรณ์ศิลปะสีเทียน สีน้ำและดินน้ำมัน ยังจำเป็นอย่างยิ่งเด็กในวัยนี้เริ่มมีความคล่องแคล่วสูงควรเริ่มฝึกหัด จักรยาน 2 ล้อ สเก็ตล้อหรืออุปกรณ์กีฬาต่างๆ เครื่องเล่นวีดีโอเกมต่างๆ เริ่มมีบทบาทอย่างมาก ในวัยนี้เกมที่มีคุณภาพจะเป็นประโยชน์มากแก่เด็ก ซึ่งต้องอาศัยความรอบคอบของผู้ปกครองในการเลือกหาวีดีโอเกมที่ไม่มีพิษภัย และไม่รุนแรง
พึงระวัง เด็กใน วัยนี้เริ่มมีวิจารณญานในการเล่นได้ดี อุบัติเหตุจากของเล่นเกิดได้น้อย แต่ของเล่นบางอย่างอาจทำให้เด็กหมกมุ่นกับของเล่นจนเกินความพอเหมาะ เช่น การเล่นเกมต่างๆ หรือวีดีโอเกมการเล่นที่โลดโผนเกินขอบเขต ในเครื่องเล่นสนาม เช่น การโยกชิงช้าหรือกระดานลื่นที่เอาศรีษะลงก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่น กัน
คุณได้ส่ง
ไม่กี่วินาทีที่แล้ว
วัย 9 – 12 ปี เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นเด็กในวัยนี้มีการ พัฒนาความเป็นตัวของตัวเองสูงขึ้น เลือกทำ และเล่นเฉพาะในสิ่งที่ตัวเองสนใจ เล่นของเล่นที่ท้าทายทางความคิดการต่อชิ้นส่วนของเล่นเล็กๆ มีความซับซ้อนมากๆ เกมที่ต้องคิดซับซ้อน เกมกระดานต่างๆ วีดีโอเกม รวมถึง อุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดต่างๆ การค้นหาสิ่งที่น่าสนใจจากคอมพิวเตอร์ เริ่มมีสังคมที่ใหญ่ขึ้น เล่นกีฬาประเภทเป็นทีม ดูหนังฟังเพลงกับเพื่อนๆ การเล่นของเล่นเริ่มลดลงตามลำดับการมีของเล่นเป็นเพื่อนเริ่มเปลี่ยนเป็นของเล่นตามแฟชั่นและเล่นหรือสะสมกันเป็นหมวดคณะ
พึงระวัง การเล่นของเล่นในเด็กวัยนี้เริ่มลดลง ประกอบกับเด็กกำลังจะเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นมีเพื่อนมากขึ้น ของเล่นจึงลดบทบาทลงไปอย่างมาก อย่างไรก็ดียังมีอันตรายจากของเล่นที่เป็นประเภทสิ่งเทียมอาวุธต่างๆ เกมคอมพิวเตอร์ที่ส่อความรุนแรงให้เด็กเลียนแบบ
อายุ 12 ปีขึ้นไป หลังจากอายุ 12 ปีความสนใจเรื่องการเล่นของเด็กๆ จะเริ่มใกล้เคียงวัยผู้ใหญ่ และจะกว้างไกลมากขึ้นเริ่มสนใจกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเครื่องอิเล็คโทรนิค และคอมพิวเตอร์อิทธิพลของของเล่นชิ้นเล็กๆ ที่เคยติดจะลดลง เกมที่สลับซับซ้อน ท้าทายจะดึงดูดได้มากกว่าของเล่น งานอดิเรกที่มีความหมายเฉพาะตัว เช่น การสะสมตุ๊กตารถยนต์คันเล็กรุ่นต่างๆ จะเริ่มต้นในวัยนี้ผู้ปกครองอาจไม่ต้องเลือกของเล่นให้เด็กแล้วแต่ยังคงให้ ความสนใจแนะนำกิจกรรม เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับเด็ก ความใกล้ชิดและเอาใจใส่เด็กในวัยรุ่นจะช่วยรักษาสัมพันธ์อันอบอุ่นให้มั่นคงเสมอ เชื่อว่าผู้ปกครองจะมองเห็นแนวทางและวิธีการพื้นฐานในการเลือกของเล่นได้อย่างเข้าใจและมั่นใจมากขึ้น การเข้าไปมีส่วนร่วมและกระตุ้นให้เด็กใช้ความคิดสร้างสรรค์ผ่านการเล่นเด็กๆ มักจะจำบทเรียนที่เขาได้เรียนรู้ในขณะที่มีความสุขสนุกสนานได้เป็นอย่างดี
ปลอดภัยไว้ก่อน
วิธีการผลิตของเล่นอย่างประณีตและการ เลือกซื้ออย่างถูกต้องยังนับว่าไม่เพียงพอจะต้องมีการใช้และเก็บรักษาอย่าง ถูกต้องเหมาะสม ด้วยไม่มีใครทำหน้าที่การดูแลที่สำคัญนี้ได้นอกจากผู้ปกครอง
ผู้ปกครองที่ทำหน้าที่ดูแลเด็กจำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องความ ปลอดภัย ก่อนให้ของเล่นกับเด็กควรอ่านคำแนะนำอย่างละเอียดและต้องมั่นใจด้วยว่า เด็กเข้าใจวิธีเล่น นอกจากเด็กจะปลอดภัยแล้วยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเล่นชิ้นนั้นด้วยการฝึก วินัยแก่เด็กในการเก็บรักษาของเล่นเข้าที่เมื่อเลิกเล่นเป็นสิ่งที่ดีที่ควรแนะนำ รวมถึงการทิ้งวัสดุที่เป็นบรรจุภัณฑ์ให้เรียบร้อยหมั่นตรวจตราของเล่นให้อยู่ในสภาพที่ดี เช่น การตรวจสอบรอยร้าวปริแตกหรือสกรูที่คลายใกล้หลุด สนิมจับ ตามส่วนที่เป็นโลหะแม้กระทั้งการทำความสะอาดของเล่นอย่างสม่ำเสมอ การแยกของเล่นในเด็กโตและเด็กเล็ก ไม่ควรมองข้ามพี่อาจหยิบยื่นของเล่นที่ไม่เหมาะแก่น้องเล็กโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ตรวจสอบความปลอดภัย ความปลอดภัยถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่ไม่ควรลืมโดยเด็ดขาด พึงตรวจสอบทุกครั้งในการเลือกหาของเล่นให้แก่เด็กตามคำแนะนำต่อไปนี้ 1.สังเกตอายุของเด็กที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์ 2.อ่านคำเตือนและข้อมูลอื่นๆ ที่ผู้ผลิตระบุไว้บนฉลากหรือป้าย 3.คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในบ้านของเด็กและคนในครอบครัว 4.สำรวจความแข็งแรงทนทานของของเล่น 5.ของเล่นที่ใช้ไฟฟ้าควรเลือก สำหรับเด็กที่มีอายุมากกว่า 8 ปี 6.ของเล่นประเภทลูกดอกหรือลูกธนูส่วนปลายต้องห่อหุ้มอย่างแข็งแรงด้วยวัสดุที่นุ่มหรือยืดหยุ่นได้ 7.ความแข็งแรงในการเย็บและตะเข็บของตุ๊กตายัดนุ่นโดยเฉพาะลูกตาจมูกกระดุมหรือเครื่องประดับอื่นๆ 8.ลูกโป่งที่มีแก๊สเพื่อให้ลอยได้ไม่เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี 9.ของเล่นลากจูงในเด็กเล็กเชือกไม่ควรยาวกว่ารอบคอของเด็ก 10.ตรวจสอบความแหลมคมในทุกด้านของของเล่น
ข้อควรระวังเหล่านี้ดูเหมือนมากมายจนระวังได้อยาก แต่เมื่อเข้าใจในการดูแลความปลอดภัยข้อแนะนำต่างๆ มีประโยชน์และคุ้มค่าที่จะศึกษาอย่างมาก หากเด็กสามารถเล่นของเล่นที่ท่านเลือกให้โดยไม่มีอุบัติเหตุใดๆ เกิดขึ้น